การที่คุณจะมีรถสักคันนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายดังนั้นการดูแลรักษารถให้สามารถใช้งานได้ในระยะเวลาที่ยาวนาน จึงเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมาก เพื่อให้การใช้งานรถยนต์ของคุณมีความสวยทั้งภายในและภายนอก รวมไปถึงเครื่องยนต์ ให้มีสภาพที่พร้อมใช้งานและเหมาะสมต่อการขับขี่บนท้องถนน
สำหรับมือใหม่หัดขับ หรือผู้หญิงที่ไม่เก่งเรื่องรถก็ไม่ควรพลาด ที่จะดูแลรักษารถของคุณให้ใหม่อยู่เสมอ วันนี้เราจะมาแชร์ 5 วิธีดูแลรักษารถยนต์เบื่องต้นของคุณที่คุณไม่ควรละเลย จะมีวิธีและการดูแลรักษารถของคุณอย่างไรนั้น
มาดูกันเลย !!
1. การขับขี่รถอย่างนุ่มนวล
การทะนุถนอมรถของคุณให้มีสภาพที่ยังคงความสวยและยังคงสภาพเครื่องยนต์ให้ใช้งานได้อย่างดีเยี่ยมนั้น สำคัญอย่างมากในการขับขี่ที่คุณต้องใช้ความนุ่มนวล ไม่กระโชกโฮกฮากในการขับเคลื่อน
ไม่ว่าจะเป็นการเหยียบคันเร่ง หรือจะเป็นการเบรกกะทันหัน สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่ส่งผลเสียต่อการใช้งานภายในรถของคุณนั่นเอง และที่สำคัญพื้นที่เรียบและพื้นที่ขรุขระ ก็สามารถที่จะส่งผลเสียให้กับรถยนต์ของคุณได้
การขับรถอย่างนุ่มนวลนั้นนอกจากจะส่งผลดีต่อสภาพรถของคุณแล้ว ยังสามารถทำให้การเดินทางของคุณนั้นอยู่บนพื้นฐานของความปลอดภัยได้อีกด้วย นี่ถึงเป็นเหตุผลว่าทำไมการขับขี่บนท้องถนนจึงควรที่จะนุ่มนวลในการขับเคลื่อนในทุกเส้นทางนั้นเอง
2. ล้างรถบ่อยๆ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง
การทำให้สภาพรถของคุณนั้นดูใหม่ได้ในทันตาเห็นวิธีที่ง่ายที่สุดนั่นก็คือการล้างรถนั่นเอง
ไม่ว่ารถของคุณจะผ่านพื้นที่ในการขับขี่ในรูปแบบไหนก็ตามการล้างรถจะช่วยทำให้รถของคุณดูใหม่เอี่ยม และดูสะอาดทั้งภายในและภายนอก ไม่เพียงเท่านั้น เรายังสามารถรู้ได้อีกด้วยว่ารถของเรานั้นมีรอยขีดข่วน รอยขนแมว ตรงไหนบ้างหรือไม่ในขณะที่มีการล้างรถนั่นเอง
ทำให้เราสามารถที่จะแก้ไขปัญหาและดูแลรักษรถของเราได้อย่างถูกต้องและทันท่วงที และนอกจากนี้ความบ่อยในการล้างรถก็ควรจะอยู่ที่สัปดาห์ละ 1 ครั้ง หรือหากคุณไม่มีเวลาก็อาจจะอยู่ที่เดือนละครั้งก็ได้
หากปล่อยไว้ไม่ยอมล้างรถ คราบสกปรกที่เกาะอยู่บนรถของคุณนั้นจะส่งผลเสียในระยะยาว เพราะรอยเปื้อนที่เกิดจากการสะสมสิ่งสกปรกนั้นอาจทำให้รถของคุณเป็นรอยที่คุณไม่สามารถที่จะลบออกได้นั่นเอง
ดังนั้น การล้างรถสัปดาห์ละ 1 ครั้งจึงเป็นเรื่องที่สำคัญและส่งผลดีต่อสภาพรถของคุณอย่างแน่นอน
3. การเลือกสถานที่ในการจอดรถ
การผลิตรถยนต์นั้นถึงแม้ว่าจะมีการป้องกันที่หนาแน่นไม่ว่าจะเป็นสีที่ป้องกันแรงกระแทกและสภาพอากาศที่แตกต่างกันในแต่ละปีแล้ว กระจกของรถก็มีการป้องกันทั้งแสงแดดและแสงกระทบที่อาจจะส่งผลเสียต่อคนที่อยู่ภายในรถได้ แต่ถึงอย่างไรก็ดีสถานภาพในการใช้งานของอุปกรณ์เหล่านี้ก็ย่อมมีการเสื่อมสภาพลง และปัจจัยที่ส่งผลเสียให้กับภายนอกรถของคุณที่มีผลมากที่สุดนั่นก็คือความร้อนจากแสงแดดนั่นเอง โทรหาคุณจอดรถในกลางแจ้งเป็นเวลาติดต่อในระยะเวลาที่ยาวนานหรือตลอดระยะเวลาการใช้งานของคุณ ทำให้สีของรถคุณนั้นมีสิ่งที่จางลงหรือมีความเสียหายเกิดขึ้นได้ง่ายกว่าเดิมนั่นเอง และไม่เพียงเท่านั้นเนื่องจากแสงแดดสามารถที่จะทะลุเข้ามาในรถได้ อาจทำให้สภาพรถภายในเกิดความเสียหายไม่ว่าจะเป็นความซีดจางของเบาะนั่ง และอุปกรณ์ภายในรถยนต์อื่นๆ ก็เป็นได้ ดังนั้นการเลือกสถานที่ในการจอดรถก็ควรจะเป็นสถานที่ที่มีร่ม นอกจากจะป้องกันความเสียหายจากจากภายนอกแล้ว ยังสามารถที่จะทำให้คุณขายรถได้ในอุณหภูมิที่เย็นสบายได้อีกด้วย
4. การเช็คระยะทางการใช้รถอย่างสม่ำเสมอ
การขับขี่และการเดินทางของยานพาหนะที่คุณใช้งานอยู่นั้นย่อมมีการเสื่อมสภาพตามการใช้งานอย่างแน่นอน สิ่งที่จะทำให้คุณสามารถมั่นใจได้ว่ารถของคุณยังอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์และสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งหนึ่งที่สำคัญที่สุดนั่นก็คือการเช็คระยะทางของรถนั่นเอง
การเช็คระยะทางตามกำหนดนอกจากรถของคุณจะได้มีการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง การเช็คระบบของรถตามการใช้งาน และอุปกรณ์สำคัญต่างๆของเครื่องยนต์แล้ว ยังสามารถทำให้คุณรู้จุดบกพร่องของรถได้อีกด้วย
เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายในการใช้งานครั้งต่อไปของคุณ การเช็คระยะทางจะเป็นสิ่งที่สามารถทำให้คุณอุ่นใจได้ในทุกการเดินทางนั่นเอง ทั้งยังทำให้คุณขับขี่ได้อย่างปลอดภัย ซึ่งวิธีนี้สามารถใช้ได้กับทั้งรถใหม่และรถมือสองนั้นเอง
5. การดูแลยางรถยนต์
การจะขับขี่ได้อย่างปลอดภัยในทุกเส้นทางของคุณได้นั้น ยางรถยนต์ของคุณคือความปลอดภัยที่คุณต้องดูแลอย่างสม่ำเสมอ เพราะถ้าหากเกิดความเสียหายกับยางรถยนต์ของคุณแล้วล่ะก็ มั่นใจได้เลยว่าคุณจะต้องหยุดใช้รถกันไปยาวๆเลยทีเดียว
วิธีการดูแลยางรถยนต์ของคุณให้มีความสมบูรณ์อยู่เสมอนั้น ก็คือการตรวจเช็คยางรถยนต์ของคุณนั่นเอง ตามหลักแล้วถ้าคุณออกรถจากศูนย์แน่นอนว่าจะมีคำแนะนำและคู่มือของรถอย่างแน่นอน
ตามหลักสากลการเติมยางลมเดือนละ 3 ครั้งถือว่าเหมาะสมมากที่สุด และข้อดีของการดูแลยางรถยนต์ของคุณอย่างสม่ำเสมอนั้นไม่เพียงแค่จะทำให้คุณปลอดภัยจากการขับขี่ได้เท่านั้น แต่ยังสามารถที่จะประหยัดน้ำมันให้กับรถของคุณได้เป็นอย่างดีอีกด้วย