ฟิล์มกรองแสง คืออะไร? วิธีอ่าน Spec ในฟิล์มกรองแสงอ่านอย่างไรบ้าง?

ฟิล์มกรองแสง (Window film) คืออะไร ทำไมถึงสามารถกรองแสงและรังสีได้?

การเลือกใช้ฟิล์มกรองแสงนั้นเป็นสิ่งสำคัญต่อผู้ใช้รถในเมืองไทยเป็นอย่างมาก เนื่องจากแสงแดดและความร้อนในเมืองไทยนั้นสูงและแรงมาก การใช้รถบนถนนจึงจำเป็นจะต้องมีฟิล์มกรองแสงที่มีคุณภาพดี ทำให้ฟิล์มกรองแสงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในรถยนต์ประเทศไทย แทบทุกคัน

หลายคนยังสนใจ บทความน่ารู้เพิ่มเติม

สอบถาม Spec ฟิล์มกรองแสงกับเราได้ทันทีครับ

โทรติดฟิล์ม

Line:@filmtastic.th

Facebookฟิล์มติดอาคาร

นอกจากเราควรพิถีพิถันในการเลือกประเภทของฟิล์ม และ ยี่ห้อของฟิล์มแล้วนั้น การเลือกคุณสมบัติและความเข้มของฟิล์มก็เป็นส่วนสำคัญที่ควรเอามาพิจารณาตัดสินใจ แต่ก่อนที่เราจะรู้ถึงคุณสมบัติ Spec ต่างๆของฟิล์มกรองแสงนั้น เราควรจะรู้ก่อนว่า ฟิล์มกรองแสง คืออะไร? 

ฟิล์มกรองแสง (Window Film) คืออะไร?

ฟิล์มกรองแสง (Window Film) คือ แผ่นลามิเนตบางชนิดหนึ่ง ผลิตมาจาก Polyethylene terephthalate หรือ PET สามารถติดตั้งได้ลงบนแผ่นกระจก ไม่ว่าจะเป็นภายในหรือภายนอก สามารถติดตั้งได้ทั้งรถยนต์ เรือ หรือแม้กระทั่งอาคารบ้านเรือนต่างๆ

ซึ่งมีคุณสมบัติยืดหยุ่นสูง มีความใสเคลีย มีความสามารถในการเคลือบด้วยสารป้องกันความร้อนในแบบต่างๆได้เป็นอย่างดี  ซึ่งโดยปกติแล้ว ฟิล์มกรองแสงที่ผลิตมาจาก PET มักจะใช้ในขวดน้ำอัดลมขวดใส ขวดเครื่องดื่มอื่นๆด้วย เป็นต้น 

อ้างอิง: https://en.wikipedia.org/wiki/Window_film

เทคนิคการเลือกฟิล์มกรองแสงแบบไหนดี? ให้เหมาะสมกับคุณ

ขณะที่คุณกำลังพิจารณาประเภทและวัสดุฟิล์มกรองแสงสำหรับรถของคุณนั้น คุณจะต้องเข้าใจตัวเลือกฟิล์มกรองแสงแบบต่าง ๆ ก่อนจึงจะเลือกฟิล์มที่เหมาะสมได้

การแบ่งตัวเลือกของคุณตามคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ในตลาดอาจช่วยได้ คุณลักษณะบางอย่างที่คุณอาจมองหา ได้แก่:

1. ดูเฉดสีของฟิล์มกรองแสง 

เฉดสีคือสีของโทนฟิล์มกระจก คุณจะต้องการสีฟิล์มที่สวยงามต่อรูปลักษณ์โดยรวมของรถของคุณ อยากได้สีดำ สีใส สีเขียว สีฟ้า เป็นต้น ซึ่งการเลือกเฉดสีฟิล์มติดรถยนต์ที่คุณต้องการได้แล้ว ก็จะนำไปสู่การเลือกประเภทฟิล์มต่อไป

2.ความคงตัวของสี สีฟิล์มไม่ซีดจาง 

อีก 1 สิ่งที่คุณต้องพิจารณาคือ สีของฟิล์มจะทนต่อรังสี UV ได้นานหลายปีแค่ไหน? คุณควรมองหาตัวเลือกฟิล์มติดกระจกที่มีความเสถียรของสีที่ยาวนาน สีไม่ซีดจางตามกาลเวลา อย่างน้อย 5-7 ปี 

3. ความคมชัด ชัดเจนของฟิล์มกรองแสง

เพื่อความปลอดภัยของคุณ คุณต้องมีฟิล์มติดกระจกรถยนต์ที่ให้ทัศนวิสัยที่ชัดเจน ลดการสะท้อน และเพิ่มความคมชัดในตอนกลางวันและตอนกลางคืน ซึ่งในปัจจุบัน ฟิล์มเซรามิค และฟิล์มนาโนคาร์บอน ก็สามารถตอบโจทย์ตรงนี้ได้เป็นอย่างดี

4. เลือกฟิล์มกรองแสงจากการลดความร้อนจากแสงแดด 

ใครๆก็อยากให้รถเย็น ไม่ร้อนเป็นเตาอบใช่มั้ยครับ หากภายในรถของคุณร้อนเกินไป การติดฟิล์มกรองแสงเพื่อควบคุมความร้อนจากแสงอาทิตย์เป็นสิ่งสำคัญ ความร้อนที่มากเกินไปจะสร้างบรรยากาศที่ไม่สบายใจและไม่ปลอดภัยสำหรับภายในรถของคุณ

เพราะฉะนั้น ถ้าต้องการฟิล์มที่ลดความร้อนสูง เราอาจจะแนะนำฟิล์มปรอทสะท้อนแสง หรือ ฟิล์มเซรามิค จะช่วยตอบโจทย์ได้

ให้เราช่วยแนะนำฟิล์มกรองแสงที่ถูกใจ ปรึกษาเราสิครับ

โทรติดฟิล์ม

Line:@filmtastic.th

Facebookฟิล์มติดอาคาร

วิธีอ่าน spec ฟิล์มกรองแสง ค่าต่างๆ อ่านยังไง?

วิธีอ่าน Spec ฟิล์มกรองแสง

ฟิล์มกรองแสงทุกประเภท และทุกยี่ห้อนั้น จะมีค่าหลายอย่างที่นำเสนอให้ลูกค้าได้เลือกอยู่ใน โบรชัว หรือ แคตตาล็อค

ดังนั้นการอ่านค่าและแปลความหมายของค่าต่างๆ ที่โชว์อยู่ในใบโบรชัวจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการตัดสินใจเลือกฟิล์ม

การที่เราสามารถอ่านและเข้าใจความหมายของค่าได้จะทำให้เรารู้ประสิทธิภาพการกันความร้อน ประสิทธิภาพการกันแสง และ ความเข้มของฟิล์ม

ตัวอย่างคุณสมบัติต่างๆ ของฟิล์มกรองแสง

Spec ฟิล์มกรองแสง 3M BC

มาเริ่มที่คุณสมบัติแรกของฟิล์มติดรถยนต์ที่โชว์อยู่ในโบรชัวคือ VLT (Visible Light Transmittance )

ค่าแสงสว่างส่องผ่าน (VLT) คืออะไร?

ค่า VLT คือ

VLT (Visible Light Transmittance ) หรือ ในภาษาไทยเรียกว่าค่า % แสงส่องผ่าน คือตัวเลข % ที่บ่งบอกความเข้มของฟิล์ม VLT ยิ่งน้อยแสดงว่าฟิล์มนั้นยิ่งเข้มมาก ยิ่งมีความดำมาก ถ้า VLT มาก แสดงว่าฟิล์มนั้นมีความใสมากนั่นเอง

VLT (Visible Light Transmittance ) มีค่าตั้งแต่ 0-100% ค่า VLT ตัวนี้จะบ่งบอกถึงแสงที่สามารถส่องเข้ามาภายใน ยิ่งค่า VLT น้อยฟิล์มจะยิ่งทึบ หรือ ยิ่งค่าเปอเซนต์ VLT มากฟิล์มจะยิ่งใสขึ้น ซึ่งถ้าฟิล์มแสงสว่างส่องผ่านน้อย (VLTต่ำ) จะมีส่วนในการป้องกันความร้อนที่ดีมากขึ้นอีกด้วย

หลายคนยังสนใจข้อมูลเพิ่มเติม: ติดฟิล์มเข้ม 40 60 80 แบบไหนดี?

ฟิล์มเข้ม 40 60 80 หมายถึงอะไร?

โดยปกติที่เรียกกันว่าฟิล์ม 40  60 หรือ 80 นั้นก็จะมาจากค่าแสงส่องผ่านของฟิล์มแบบคร่าวๆ คือ 40 เข้มน้อย 60 เข้มกลาง 80 เข้มมาก แต่ถ้าจะให้ละเอียด ต้องดูที่ค่า VLT หรือค่าแสงสว่างส่องผ่าน

โดยทั่วไปนั้น

ฟิล์ม40% จะมีแสงส่องผ่านอยู่ประมาณ 35-40%

ฟิล์ม60% จะมีค่าแสงส่องผ่านอยู่ประมาณ 18-25%

และฟิล์ม 80% จะมีค่าแสงส่องผ่านอยู่ที่ต่ำกว่า 6% ลงไป

โดยรวมแล้วการเลือก VLT หรือ เปอร์เซ็นต์ความเข้มจึงมีความสำคัญต่อความเข้มและความเป็นส่วนตัวในรถยนต์ และมีผลต่อการป้องกันความร้อนด้วย

สนใจติดฟิล์มกรองแสงความเข้มต่างๆ

โทรติดฟิล์ม

Line:@filmtastic.th

Facebookฟิล์มติดอาคาร

ค่าการป้องกันรังสียูวี (UVR) คืออะไร

แสง UV หรือรังสี UV ย่อมาจากรังสี Ultraviolet เป็นแสงที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แสง UV จากดวงอาทิตย์นั้นมีผลทำให้ผิวคล้ำ เกิดมะเร็งผิวหนัง และยังทำให้สภาพภายในของรถยนต์ เสื่อมสภาพ และ ซีดจางอีกด้วย

รังสี uv คือ

ค่า UVR (Ultraviolet Rejected) คือ ค่าการป้องกันรังสี  Ultraviolet คลื่นความถี่ 100-400 nm ซึ่งเป็นรังสีที่อันตรายมากที่สุด โดยทั่วไป ฟิล์มกรองแสงที่ขายอยู่ตามท้องตลาดจะสามารถกันรังสี UV ได้ 99.9% หรือเกือบ 100% กันหมดแล้ว

จึงไม่ได้เป็นคุณสมบัติเด่นแต่อย่างไร ดังนั้นการเลือกฟิล์มก็ควรดูฟิล์มที่สามารถกันรังสี UV ได้ไม่ต่ำกว่า 95% เป็นอย่างน้อยนั่นเอง

ค่าการป้องกันรังสีอินฟราเรด (IRR) คืออะไร

ค่า ir คือ

ค่า IR คือ รังสีอินฟราเรด ซึ่งเป็นตัวแทนบ่งบอกถึงรังสีความร้อนจากดวงอาทิตย์

ค่าลดรังสีความร้อน หรือ ค่าลดรังสีอินฟาเรด (IRR) ย่อมาจาก Infrared rejection คือ รังสีความร้อนที่ส่งผ่านมาจากดวงอาทิตโดยตรง และสามารถผ่านเข้ามาในบรรยากาศโลกได้ในปริมาณมาก ดังนั้นถ้าอยากจะเลือกฟิล์มกรองแสงที่สามารถลดความร้อนภายในรถยนต์ได้ดี ควรเลือกฟิล์มที่สามารถกันรังสี อินฟราเรดได้มาก โดยปกติทั่วๆไป ฟิล์มระดับกลางในท้องตลาดจะสามารถกันรังสีอินฟราเรดได้ประมาณ 50-70% 

ค่าการลดรังสีอินฟราเรดนี้ เป็นค่า spec ที่สำคัญที่ผู้บริโภคควรเลือกคำนึงถึง เนื่องการค่านี้มีผลโดยตรงต่อการลดรังสีความร้อนจากภายนอกรถยนต์ แต่ถ้าผู้บริโภคต้องการลงความร้อนได้ในระดับสูงให้ เข้ากับสภาพความร้อนของอากาศเมืองไทยควรเลือกฟิล์มกรองแสงที่มีระดับรังสีอินฟราเรด (IRR)ที่ 80% ขึ้นไป

สอบถามคุณสมับิตฟิล์มกรองแสงเพิ่มเติม ติดต่อเราสิครับ

โทรติดฟิล์ม

Line:@filmtastic.th

Facebookฟิล์มติดอาคาร

ค่าการสะท้อนแสง (VLR) คืออะไร?

ค่า VLR คือ

ค่า VLR (Visible Light Reflectance) หรือเรียกเป็นภาษาไทยว่า ค่าสะท้อนแสง ค่าสะท้อนแสงนั้น จะเป็นค่าที่กำหนดความเงาหรือสะท้อนบนพื้นผิวของฟิล์มกรองแสง

ถ้าอธิบายให้เข้าใจคือ ยิ่งเปอเซนต์การสะท้องแสง VLR มาก ฟิล์มจะยิ่งมีความเงาเหมือนกระจกมากหรือเรียกกันง่ายๆว่าฟิล์มปรอท ส่วนฟิล์มที่มีค่าสะท้อนน้อยนั้นจะเรียกกันง่ายๆว่าฟิล์มดำ หรือฟิล์มจำพวกฟิล์มเซรามิค  การสะท้อนแสงมีผลโดนตรงต่อทัศนวิสัย

ในการขับรถทั้งกลางวันและกลางคืน โดยทั่วไป ค่าสะท้อนแสงที่ควรเลือกใช้ เพื่อทัศนะวิสัยและการมองเห็นที่ดีในการขับขี่บนท้องถนนคือ ควรมี เปอเซ็นค่าสะท้อนแสงต่ำกว่า 10% ถ้ามากกว่านั้นฟิล์มจะมองดูเงาและไม่เคลียทำให้การ ขับขี่เป็นอันตรายทั้งผู้ขับและผู้ร่วมใช้รถใช้ถนน

ค่าลดความร้อนรวม (TSER) คืออะไร?

ค่า TSER คือ

ค่า TSER (Total Solar Energy Rejected) คือค่าลดความร้อนรวม เป็นการรวมการลดความร้อนของรังสี UV ค่าแสงสว่างส่องผ่าน ค่าการป้องกันรังสีอินฟราเรด รวม 3 รังสีเข้าด้วยกัน ซึ่งเป็นค่าที่บอกประสิทธิภาพการป้องกันความร้อนโดยรวมของฟิล์มกรองแสงนั่นเอง

สนใจติดฟิล์มรถยนต์ กับทีมงานมืออาชีพ ติดต่อเราสิครับ

โทรติดฟิล์ม

Line:@filmtastic.th

Facebookฟิล์มติดอาคาร