แนะนำประเภทฟิล์มติดกรองแสงติดรถยนต์
มีข้อดีหลายอย่างสำหรับการติดฟิล์มกรองแสงรถยนต์ ช่วยป้องกันรังสียูวีและลดแสงสะท้อน และโทนสีของฟิล์มกรองแสงจะช่วยเพิ่มสไตล์และรูปลักษณ์ที่กำหนดได้ให้กับรถของคุณ
แต่ฟิล์มกระจกรถยนต์มีหลายประเภทและหลายราคา อาจเป็นเรื่องยากที่จะรู้ว่า จะเริ่มต้นจากที่ใด และควรมองหาอะไร
หลายคนยังอ่านข้อมูลเพิ่มเติม:
- เปรียบเทียบ 6 ฟิล์มรถยนต์ยี่ห้อดัง ยี่ห้อไหนดี?
- ติดฟิล์มรถยนต์ ความเข้มกี่เปอร์เซ็นต์ดี 40 60 80
- 5 เทคนิค การเลือกฟิล์มกรองแสงที่ดีที่สุด
ถ้าไม่รู้จะเริ่มเลือกฟิล์มจากตรงไหน โทรปรึกษาเราสิครับ
วันนี้ เรามาดูรายละเอียดของฟิล์มกรองแสงแบบต่าง ๆ ที่คุณสามารถเลือกได้ พร้อมข้อดีข้อเสียของแต่ละประเภท พร้อมแนะนำฟิล์มติดรถยนต์ ที่เหมาะกับรถของคุณมากที่สุด แต่ก่อนที่จะมาดูฟิล์มแต่ละประเภทนั้น เรามาดูประโยชน์ของการติดฟิล์มกรองแสงกันก่อนครับ
ประโยชน์ของการติดฟิล์มกรองแสงรถยนต์
ยานพาหนะหลายคันมาพร้อมกับฟิล์มกรองแสงย้อมสีแบบพื้นฐาน แต่คุณสามารถเปลี่ยนฟิล์มกรองแสงได้ คุณสามารถเลือกคุณภาพ เฉดสี และราคาได้ตามต้องการ และนี่คือประโยชน์พื้นฐานของฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์
- การติดฟิล์มกรองแสงจะช่วยเพิ่มสไตล์ให้กับรถของคุณและทำให้เป็นเอกลักษณ์
- นอกจากนี้ฟิล์มยังมอบความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยให้กับรถของคุณ และยังช่วยปกป้องคุณจากรังสียูวีที่เป็นอันตรายจากดวงอาทิตย์
- ซึ่งฟิล์มกรองแสง จะช่วยยืดอายุการใช้งาน และคุณภาพของเบาะรถของคุณ และป้องกันมะเร็งผิวหนังได้
- อีกทั้งฟิล์มกรองแสงช่วยให้ภายในรถของคุณเย็นสบาย แม้ในอากาศร้อนมาก
- ฟิล์มกรองแสงยังช่วยลดแสงสะท้อนและทำให้การขับขี่ปลอดภัยยิ่งขึ้น
ฟิล์มกรองแสงประเภทต่าง ๆ
อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่ฟิล์มกรองแสงมีตัวเลือกต่าง ๆ มากมายสำหรับฟิล์มติดกระจกรถยนต์ แต่ละแบบมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป เรามาทำความรู้จักฟิล์มแต่ละแบบกันดีกว่าครับว่ามีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง
1. ฟิล์มย้อมสี
ฟิล์มย้อมสีประกอบด้วยฟิล์มสีดำเข้ม ซึ่งผ่านการย้อมสีมาหลายชั้น ซึ่งฟิล์มจะมีสีดำเข้ม สามารถดูดซับแสงแดด แสงสว่างที่ทะลุผ่านหน้าต่างมาได้เป็นอย่างดี มีระดับความเข้มของฟิล์ม 40 60 80 ให้เลือกตามระดับที่คุณต้องการ
ข้อดีของฟิล์มย้อมสี
ฟิล์มย้อมสีมีข้อดีคือ เป็นฟิล์มติดกระจกรถยนต์ที่มีราคาไม่แพง และธรรมดามากที่สุด ติดฟิล์มรถยนต์ราคาถูก ติดตั้งเพียงคันละ 1000-2000 บาทเท่านั้น
ข้อเสียของฟิล์มย้อมสี
ฟิล์มย้อมสีมีข้อเสีย คือไม่มีการป้องกันรังสียูวีในระดับเดียวกับฟิล์มกรองแสงชนิดอื่น ๆ อีกทั้งมีความสามารถจำกัดในการป้องกันความร้อนจากแสงแดดเช่นกัน และยังมีแนวโน้มที่จะจางหายไป ดังนั้นฟิล์มย้อมสีจึงมีประสิทธิภาพน้อยลงเมื่อเวลาผ่านไป
ตัวอย่างรถยนต์ติดฟิล์มดำธรรมดา
2. ฟิล์มเมทัลไลซ์ หรือฟิล์มโลหะ
ฟิล์มกรองแสงฉาบโลหะ หรือ ที่ภาษาบ้านเราเรียกกันว่า ฟิล์มปรอทนั้นประกอบด้วยอนุภาคขนาดเล็กของโลหะ เคลือบในห้องสุญญากาศ
จุดเด่นของฟิล์มโลหะ
จุดเด่นของฟิล์มปรอท คือ ฟิล์มมีความมันวาวสูง เหมาะสำหรับสะท้อนเพื่อกันแสงแดด สะท้อนความร้อน ไม่ดูดซับความร้อน ทำให้ และมีประสิทธิภาพการป้องกันความร้อนมากกว่าฟิล์มย้อมสีมาก ฟิล์มเคลือบโลหะยังทนต่อการขีดข่วนได้เป็นอย่างดี มีความหนา ช่วงป้องกันกระจกแตกเป็นเสี่ยง ๆ จากอุบัติเหตุ
ตัวอย่างรถยน์ติดฟิล์มฉาบโลหะ
ข้อเสียของฟิล์มโลหะ
ข้อเสียอย่างหนึ่งของฟิล์มฉาบโลหะคือ อนุภาคโลหะสามารถรบกวนสัญญาณวิทยุ หรือ GPS ได้ ในเรื่องของความสวยงาม บางคนอาจจะชอบมาก แต่บางคนก็อาจจะไม่ชอบได้เช่นเดียวกัน ซึ่งต้องบอกตามตรงว่าในปัจจุบัน ความนิยมของฟิล์มปรอทก็เริ่มลดลงเรื่อยๆด้วย เนื่องจากทัศนวิสัย อาจจะไม่ดีเท่าที่ควร
สนใจติดฟิล์มปรอท ราคาถูกเริ่มต้นเพียง 4,500 บาท
3. ฟิล์มไฮบริด
ฟิล์มกรองแสงแบบไฮบริดมีส่วนผสมของสารเคลือบหลากหลายประเภท ฟิล์มไฮบริดบางประเภท มีการผสมกันของสีย้อมและอนุภาคโลหะ ประกอบด้วยชั้นสีย้อมหลายชั้น โดยมีชั้นโลหะบาง ๆ อย่างไททาเนียมอยู่ระหว่างนั้น
ฟิล์มกรองแสงแบบไฮบริดช่วยลดข้อเสียของฟิล์มย้อมสีและฟิล์มโลหะ มีความคมชัดมากกว่า ไม่รบกวนสัญญาณ Easy Pass, GPS และการสะท้อนแสงไม่มากนัก ไม่มีลักษณะเงาเหมือนกระจก
ฟิล์มไฮบริดอีกประเภทหนึ่งที่กำลังเป็นที่นิยมมากคือ ฟิล์มฉาบโลหะ ผสม เซรามิค ทำให้ได้ความเคลียจากฟิล์มเซรามิค และการป้องกันรังสีความร้อนได้สูงจากฟิล์มแาบโลหะด้วยนั่นเอง แต่ราคาก็ค่อนข้างสูงมากด้วยเช่นกัน
4. ฟิล์มคาร์บอน
ฟิล์มกรองแสงคาร์บอนประกอบด้วยอนุภาคคาร์บอนไฟเบอร์ที่ มีคุณสมบัติเด่นคือ ฟิล์มคาร์บอนสีไม่ซีดจางหายไปตามกาลเวลา
จุดเด่นของฟิล์มคาร์บอน
ฟิล์มคาร์บอนมีประสิทธิภาพในการป้องกันความร้อนมากกว่าฟิล์มย้อมสีและฟิล์มฉาบโลหะบางรุ่น จึงเป็นที่นิยมในช่วงเวลาหนึ่ง ตอนสมัยที่ฟิล์มเซรามิคยังไม่บูมมากในท้องตลาด เนื่องจากราคาที่ไม่แพงมาก แต่ป้องกันรังสีความร้อนได้ค่อนข้างสูง
ข้อเสียของฟิล์มคาร์บอน
ข้อเสียของฟิล์มคาร์บอน คือ เป็นฟิล์มที่อยู่ในเกรดกลางๆ ไปไม่สุดซักทาง นั่นก็คือความคมชัด อาจจะสู้ฟิล์มเซรามิค ไม่ได้ซะทีเดียว และการป้องกันความร้อน อาจจะสู้ฟิล์มปรอทไม่ได้ด้วยซ้ำ นั่นเป็นเพราะว่าฟิล์มดำคาร์บอนเป็นฟิล์มที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีเก่าแล้วนั่นเอง
สนใจติดฟิล์ม Black Carbon ราคาถูก โทรเลย
ฟิล์มเซรามิค
ฟิล์มเซรามิค เป็นฟิล์มที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดในปัจจุบัน เป็นฟิล์มที่สามารถป้องกันรังสียูวีได้มากถึง 99% มีประสิทธิภาพสูงสุดในการกันความร้อนจากแสงแดด นั่นก็คือป้องกันรังสีความร้อนมากกว่า 80%
จุดเด่นของฟิล์มเซรามิค
ด้วยความที่อนุภาคเซรามิค มีคุณสมบัติทนทานสูงมาก กันความร้อนสูงทำให้ ฟิล์มเซรามิค รับประกันยาวนานมากกว่า 10 ปี จากปกติฟิล์มดำ หรือฟิล์มปรอทจะรับประกันแค่ 5-7 ปีเท่านั้น และสีจะไม่ซีดจางเมื่อเวลาผ่านไป ทำให้ประสิทธิภาพการป้องกันความร้อนไม่ลดลงไปตามกาลเวลาด้วย อีกทั้งยังได้คุณสมบัติ ฟิล์มดำนอก สว่างใน เป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน
เช่นเดียวกับฟิล์มโลหะ ชั้นฟิล์มเซรามิกสามารถป้องกันการแตกกระจายของกระจกได้ แถมยังมีโทนสีให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ฟิล์มเซรามิค 40 60 80 เป็นต้น
จุดอ่อนของฟิล์มเซรามิค
ฟิล์มเซรามิค จะเป็นฟิล์มที่ค่อนข้างอมความร้อนสูงบนเนื้อฟิล์มเมื่อเทียบกับฟิล์มฉาบโลหะ ดังนั้น ถ้าสมมุติว่าจอดรถกลางแดดนานๆโดยรถไม่เคลื่อนที่เลย การติดฟิล์มเซรามิคก็จะทำให้ภายในตัวรถร้อนได้เช่นเดียวกัน อีกทั้งฟิล์มเซรามิค ราคาก็จะค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับฟิล์มทั่วๆไป ซึ่งถ้าเป็นเกรดเซรามิคแท้ ราคาจะอยู่ประมาณ หมื่นต้นๆเลยทีเดียว