เพิ่มสมรรถภาพให้ยางรถยนต์ เติมลมเท่าไหร่ถึงจะพอดี
ไม่ว่าคุณจะเดินทางใกล้หรือไกล ยานพาหนะที่ดีที่สุดนั่นก็คือรถยนต์นั่นเอง แต่การเดินทางของคุณจะสะดวกและถึงเป้าหมายได้อย่างปลอดภัยสิ่งที่คุณไม่ควรละเลยก็คือสภาพยางรถยนต์ของคุณ แล้วการดูแลสภาพยางรถยนต์ และการเติมลมยางที่ถูกต้องและปลอดภัย เป็นอย่างไร?
หลายคนยังสนใจบทความน่ารู้เพิ่มเติม
วันนี้เรามีเคล็ดลับดีๆ สำหรับคนที่ใช้รถยนต์เป็นยานพาหนะในการเดินทางบ่อยๆ เพื่อเพิ่มสมรรถภาพให้กับรถยนต์ของคุณได้อย่างเต็มที่
เติมลมยางรถยนต์ เท่าไรดี?
การเติมลมสำหรับยางรถแต่ละประเภทก็มีความแตกต่างกันไปด้วยขนาดและรูปแบบของรถที่แตกต่างกันไม่ว่าจะเป็น
- รถยนต์ขนาดเล็ก จะเติมลมด้วยระดับความดันที่ 25-30 ปอนด์
- รถยนต์ขนาดกลาง แรงดันในการเติมลมยางรถยนต์ควรอยู่ที่ 30-35 ปอนด์
- รถกระบะที่ไม่ได้ใช้สำหรับการบรรทุก ควรเติมลมยางอยู่ที่ 35-40 ปอนด์
- รถตู้บรรทุก จำนวนคนตั้งแต่ 7-10 คน ควรที่จะเติมแรงลมอยู่ที่ 43-55 ปอนด์
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการเติมลงในแต่ละครั้งก็ต้องขึ้นอยู่กับน้ำหนักของรถและจำนวนบรรทุกน้ำหนักทั้งหมดของรถเพื่อให้เกิดความสมดุลกันกับยางรถยนต์นั้นเอง
วิธีเติมลมยางรถยนต์ด้วยตัวเอง แบบที่เข้าใจง่าย
ขั้นตอนและวิธีการเติมยางรถยนต์ไม่ใช่เรื่องยากพระคุณสามารถที่จะพบกับท่านเติมลมตามปั๊มน้ำมันทั่วไปและศูนย์บริการรถยนต์ โดยการเติมลมมีขั้นตอนดังต่อไปนี้
- ปุ่มลดระดับแรงดันของลม ซึ่งจะอยู่บริเวณด้านซ้ายมือและมีสัญลักษณ์ – ลบ ให้เราเห็น
- ปุ่มเพิ่มระดับแรงดันของลม ผมจะอยู่บริเวณด้านขวามือและมีสัญลักษณ์+ บวก ให้เราเห็น
- ปุ่มหน่วยวัดความดัน PSI
- ปุ่มสำหรับเติมลมรถที่ยางแบน
ด้วยขั้นตอนหลักๆแล้วก็จะมีอยู่ 4 ขั้นตอนที่เราได้กล่าวไปข้างต้นและการใช้งานก็ง่ายๆเพียงแค่เราทำตามคู่มือตามขนาดของรถแต่ละคันที่เราใช้งานก็จะสามารถเติมลมได้อย่างปลอดภัย และสามารถทำได้เองได้ในทุกสถานที่ให้บริการนั้นเอง
จะรู้ได้อย่างไรว่ารถแต่ละคันต้องเติมลมยางเท่าไหร่ ดูที่ตรงไหน?
หลายคนอาจจะสงสัยว่ารถแต่ละคันที่มีขนาดไม่เท่ากันจะต้องเติมลมยางเท่าไหร่? และดูจากส่วนไหนของรถเพื่อให้การลมแต่ละครั้งมีความปลอดภัยและสามารถใช้งานได้อย่างยั่งยืน
อย่างแรกเลยก็คือรถทุกคันที่มีการออกจากศูนย์จะมีป้ายสติ๊กเกอร์ติดแปะไว้เพื่อให้คุณสามารถเห็นได้ตรงบริเวณ ช่างประตูคนขับซึ่งจะมีข้อมูลเกี่ยวกับการเติมลมยางที่เหมาะสมกับรถคันดังกล่าว เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างปกติ
โดยตามหลักการ การเติมลมยางของรถแล้วประเทศไทยจะมีหน่วยวัดเป็น PSI (Pound per Square inch) หรือ ปอนด์ต่อตารางนิ้ว โดยเราสามารถที่จะเติมลมยางจากปั๊มน้ำมันหรือศูนย์บริการรถยนต์ต่างๆทั่วประเทศไทยจะมีหน่วยวัดเท่ากันทั้งหมดนั่นเอง
และสำหรับใครที่ยังไม่มั่นใจในการเติมลมยางด้วยตัวของคุณเองคุณสามารถที่จะเรียนรู้เพิ่มเติมจากคู่มือที่มาพร้อมกับรถในหัวข้อการดูแลรักษารถยนต์ ซึ่งจะมีข้อมูลที่ครบถ้วนและถูกต้องอย่างแน่นอน
สนใจหาร้านฟิล์มกรองแสงรถยนต์ ติดต่อเราสิครับ
เราควรเช็คสภาพยางรถยนต์บ่อยแค่ไหน?
ตามหลักแล้วหากคุณเติมยางรถยนต์ถูกต้องเป็นปกติอยู่แล้วความบ่อยในการเช็คสภาพยางรถยนต์นั้นควรอยู่ที่ 1 ถึง 2 ครั้งต่อเดือน เพราะการใช้งานยางรถยนต์ในแต่ละเดือนนั้นตามหลักแล้วลมยางจะมีปริมาณที่ลดลง 2-3 PSI ในการใช้งานหนึ่งเดือน
หากเราเช็คยางรถยนต์อย่างสม่ำเสมอและมีการเติมแรงดันลมให้เต็ม จะช่วยให้ชะลอการเสื่อมสภาพของยางรถยนต์ได้เป็นอย่างดี
และการดูแลสภาพยางรถยนต์ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานและมีประสิทธิภาพสูงนั้นไม่เพียงแค่จะช่วยในเรื่องของความปลอดภัยในการเดินทางเท่านั้น แต่ยังมีส่วนในการช่วยประหยัดพลังงานน้ำมันได้เป็นอย่างดีอีกด้วย นี่ขึ้นเป็นเหตุผลว่าทำไมยางรถยนต์ถึงมีความสำคัญ และไม่ควรละเลยในการดูแลนั่นเอง
หลายคนยังสนใจบทความน่ารู้อื่นๆเพิ่มเติม
ควรเติมยางที่อุณหภูมิเท่าไร รถน้ำหนักเท่าไร?
การเติมลมในแต่ละครั้งสภาพยางรถยนต์ควรอยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสม
เพราะการเติมลมในสภาพรถยนต์ที่มีอุณหภูมิสูงมากเกินไป อาจทำให้ผลที่ออกมาไม่มีความแม่นยำมากพอ เพราะความร้อนจะทําให้อากาศขยายตัวมากกว่าอุณหภูมิเย็นนั่นเอง
และในขณะเดียวกันการเติมลมยางในแต่ละครั้ง น้ำหนักของรถไม่ควรที่จะมากกว่าปกติหรือพูดง่ายๆก็คือ รถไม่ควรอยู่ในสภาพที่บรรทุกของหนักนั่นเอง เพราะสิ่งเหล่านี้จะทำให้เราไม่สามารถที่จะรู้ได้เลยว่าลมยางที่เราเติมเข้าไปร้านพอดีกับน้ำหนักตัวของรถหรือไม่นั่นเอง
มองหาร้านติดฟิล์มรถยนต์ ติดต่อเราสิครับ
ลมยางอ่อนเกินไป ลมยางแข็งเกินไป เราจะรู้ได้อย่างไร?
สำหรับคนที่ใช้งานรถยนต์บ่อยๆ หลายครั้งที่เรามักจะละเลยการดูแลสุขภาพของยางรถยนต์ จึงทำให้ยางรถยนต์นั้นอยู่ในสภาพที่อ่อนเกินไปหรือแข็งจนเกินไป จึงทำให้ส่งผลกระทบต่อการใช้งานรวมไปถึงความปลอดภัยในการใช้งานบนท้องถนน ก็มีความเสี่ยงเช่นเดียวกัน
ดังนั้นการที่เราจะดูว่ายางรถยนต์อยู่ในสภาพอ่อนเกินไปหรือแข็งเกินไปจากข้อสังเกตดังต่อไปนี้
- เมื่อยางรถยนต์อ่อนจนเกินไป จะทำให้ผู้ขับรู้สึกถึงความนุ่มนวลของช่วงล่างรถ การขับขี่รถแต่ละครั้งทำให้ยางรถไม่เกาะติดกับถนน และเมื่อใช้ความเร็วมากขึ้นในการขับรถจะทำให้รถมีความหน่วงและรู้สึกไม่นิ่มนวล และความเร็วในการขับรถก็จะมีความหนืดมากกว่าที่เคย และเมื่อเจอกับถนนที่ขรุขระอาจทำให้รถเกิดยางระเบิดได้ เนื่องจากยางรถภายในมีการบิดตัวมากจนเกินไปนั่นเอง
- ขนาดยางรถแข็งจนเกินไป การเติมยางรถยนต์แข็งเกินไปนั้นจะทำให้รถมีความแข็งกระด้างมากยิ่งขึ้นในขณะที่ขับขี่ หรือพูดง่ายๆก็คือรถจะมีการออกตัวที่ลื่นไหลไม่เกาะถนนเมื่อมีการโค้งของรถ และเมื่อรถวิ่งในความเร็วที่สูงขึ้น จะทำให้มีการสั่นสะเทือนและมีแรงกระแทกมากกว่าที่เคย เนื่องจากความแข็งของล้อจะทำให้มีการกระแทกที่รุนแรงกว่านั่นเอง เมื่อพบเจอกับหนทางที่มีหลุมบ่ออาจทำให้ยางรถเกิดการระเบิดขึ้นได้นั่นเอง
จะเห็นได้ว่าความสำคัญในการดูแลรถนั้นไม่เพียงแค่ระบบอื่นๆของรถเท่านั้นที่มีความจำเป็นต่อการขับขี่อย่างปลอดภัยและส่วนที่สำคัญมากที่สุดส่วนนั่น ก็คือยางรถยนต์ของเรานั่นเอง ดังนั้นหากคุณมีรถยนต์อยู่แล้วลองตรวจเช็คสภาพยางรถยนต์ของคุณเพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัยในทุกครั้งก่อนออกเดินทาง
สนใจหาร้านฟิล์มกรองแสงรถยนต์ ติดต่อเราสิครับ
หลายคนยังสนใจบทความน่ารู้อื่นๆเพิ่มเติม
- ติดฟิล์มรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี?
- รอยขนแมว ลบได้อย่างไร?
- เคลือบแก้วหรือเคลือบสี แบบไหนดีสุด?