นอกเหนือไปจากการดูแลบำรุงรักษาเครื่องยนต์แล้ว การใช้งานรถยนต์เองก็ควรคำนึงถึงการดูแลรักษาภายในห้องโดยสารด้วยเช่นกัน เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีการใช้งานทุกครั้งที่เราขับรถ ซึ่งการดูแลรักษาภายในห้องโดยสารส่วนใหญ่ จะเน้นไปที่การดูแลให้ถูกสุขลักษณะและสะอาดอยู่เสมอ
ซึ่งพื้นที่ที่จะสามารถก่อความสกปรกได้เป็นอย่างดีในห้องโดยสารรถยนต์ก็คงจะไม่พ้นเบาะรถยนต์และพรมรถยนต์ ที่ถือเป็นตัวเก็บฝุ่นอย่างดี และสกปรกได้ง่ายที่สุด เพราะฉะนั้นแล้ว เรามารู้วิธีทำความสะอาดห้องโดยสาร ด้วยซักเบาะรถยนต์ และซักพรมรถยนต์ได้จากบทความนี้เลย
หลายคนยังสนใจ บทความน่ารู้เพิ่มเติม
ทำความสะอาดเบาะแล้ว อยากติดฟิล์มกรองแสง ติดต่อเราสิครับ
ประเภทของเบาะรถยนต์ มีกี่อย่าง?
ก่อนจะไปรู้จักวิธีซักเบาะรถยนต์ เราควรรู้จักประเภทของเบาะรถยนต์ก่อน เนื่องจากเบาะรถยนต์แต่ละประเภทมีวิธีทำความสะอาดที่แตกต่างกัน โดยเบาะรถยนต์สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทคือ
เบาะหนังแท้ ที่ทำมาจากหนังสัตว์ผ่านกระบวนการฟอกสี การกำจัดกลิ่น ทำให้หนังมีความนุ่ม และการตัดเย็บ ซึ่งข้อดีคือหนังจะให้สัมผัสนุ่ม สีสันสวยงาม แต่ข้อเสียคือราคาแพง และการดูแลรักษาที่ต้องการเป็นพิเศษ
เบาะหนังเทียม ที่ทำมาจากวัสดุ PVC หรือ Polyurethane จากกระบวนการสังเคราะห์ทางเคมี โดยจะให้สัมผัสที่ใกล้เคียงกับหนังแท้ ทำให้นิยมใช้แทนหนังแท้เพื่อประหยัดต้นทุน อีกทั้งยังมีข้อดีคือมีอายุการใช้งานยาวนาน และดูแลรักษาทำความสะอาดง่ายนั่นเอง
เบาะผ้า ทำมาจากวัสดุผ้าชนิดต่างๆ ทั้งผ้าสังเคราะห์และผ้ากำมะหยี่ มีราคาถูกกว่าเบาะหนังทั้งสองประเภท แต่เป็นประเภทที่เกิดความสกปรกได้ง่าย และเก็บฝุ่น หากเกิดคราบสกปรกแล้วจะทำความสะอาดได้ยาก
วิธีซักเบาะรถยนต์แต่ละประเภท ทำอย่างไรบ้าง?
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า เบาะแต่ละชนิด จะมีรายละเอียดในการดูแลรักษาต่างกัน โดยเมื่อเบาะรถยนต์เกิดความสกปรก เบื้องต้นเราสามารถซักทำความสะอาดเบาะรถยนต์ได้ด้วยตัวเอง ตามวิธีดังนี้
วิธีซักเบาะหนังแท้
สำหรับเบาะหนังแท้ จะไม่นิยมซักเบาะรถยนต์ด้วยเครื่องซักทำความสะอาด เพราะคราบสกปรกมักจะไม่ฝังแน่นสะสม และอาจะทำให้หนังเสียหาย โดยวิธีซ้กเบาะหนังสามารถทำตามขั้นตอนดังนี้
- นำผ้าขมหนูชุบน้ำสบู่ บิดให้หมาด และเช็ดทำความสะอาดให้ทั่ว
- นำแปรงสีฟันขนอ่อนนุ่ม จุ่มน้ำสบู่ และขัดเบาๆ เป็นวงกลมบริเวณที่มีคราบหรือรอยเปื้อน
- ใช้ผ้าขนหนูผืนใหม่ชุบน้ำเปล่า บิดให้หมาดและเช็ดประมาณ 2-3 รอบ พยายามอย่าชุบน้ำในปริมาณมากเพื่อเช็ดทำความสะอาดเบาะรถยนต์เพราะจะทำให้เกิดความอับชื้น
- หากเกิดความสกปรกมาก ให้ใช้สเตคลีนหรือน้ำยาทำความสะอาดเบาะหนังโดยเฉพาะ มาเช็ดซ้ำอีกครั้ง
- เปิดประตูรถผึ่งลมระบายความชื้น และเป็นการตากเบาะให้แห้งไปในตัว และเมื่อเบาะแห้งดีแล้ว ให้ทำการเคลือบผิวด้วยน้ำตาเคลือบเบาะหนัง
วิธีซักเบาะหนังเทียม
เบาะหนังเทียมเป็นประเภทของเบาะรถยนต์ที่ดูแลรักษาง่าย มีวิธีการซักเบาะรถยนต์ที่ไม่ต่างจากหนังแท้เท่าไหร่โดยสามารถใช้ผ้าชุบน้ำสบู่เหลวในการเช็ดทำความสะอาดได้เลย หรือหากมีคราบสกปรกมาก ให้ใช้น้ำยาทำความสะอาดเบาะหนังและขัดเบาๆ จากนั้นหลังทำความสะอาดก็อย่าลืมเคลือบเบาะด้วยสเปรย์สำหรับเคลือบเบาะ
วิธีซักเบาะผ้า
เบาะผ้าถือเป็นประเภทของเบาะที่เกิดคราบฝังแน่นและอมฝุ่นได้มากที่สุด เพราะฉะนั้นก็อาจจะเป็นประเภทของเบาะที่ทำความสะอาดได้ยากที่สุด ซึ่งเราสามารถทำความสะอาดเองเบื้องต้นได้ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
- เลือกใช้น้ำยาซักเบาะผ้าโดยเฉพาะ ผสมน้ำยาซักกับน้ำสะอาดในสัดส่วนตามที่แนะนำ
- นำน้ำยาซักเบาะผ้าที่ผสมแล้ว ใส่กระบอกฉีด นำไปฉีดให้ทั่วบริเวณที่ต้องการทำความสะอาด จากนั้นใช้ฟองน้ำสะอาดเช็ดเบาๆ
- นำฟองน้ำชุบน้ำสะอาดแล้วบิดให้หมาดๆ และนำไปลูบบริเวณที่ทำความสะอาดด้วยน้ำยา เพื่อล้างน้ำยาออก
- ทำซ้ำจนน้ำยาออกเกือบหมด และใช้ผ้าสะอาดเช็ดฟองให้หมด
- เป่าเบาะรถยนต์ด้วยไดร์เป่าผมหรือ Blower เปิดประตูผึ่งลมเพื่อให้เกิดดารระบายอากาศและช่วยให้เบาะแห้งสนิท
นอกจากนี้ การทำความสะอาดเบาะผ้ายังสามารถใช้เครื่องมือที่เรียกว่าเครื่องดูดน้ำในการช่วยทำความสะอาดได้อีกด้วย
ซักเบาะรถยนต์แล้ว สนใจติดฟิล์มกรองแสงโทรหาเราสิครับ
เทคนิคซักพรมรถยนต์อย่างไรดี?
พรมรถยนต์เป็นอีกส่วนในห้องโดยสารที่ถือว่าทำความสะอาดได้ยากเช่นเดียวกัน ซึ่งวิธีการดูแลรักษาและทำความสะอาดเบื้องต้นสามารถเริ่มจากการดูดฝุ่นเป็นประจำสม่ำเสมอ แต่หากพรมรถยนต์มีความสกปรกที่มากขึ้น สามารถทำความสะอาดได้ตามนี้
1. พรมเปียกน้ำ
หากพรมเปียกน้ำเพียงเล็กน้อย สามารถใช้ทิชชูหรือผ้าสะอาบซับได้ และนำรถมาจอดไว้กลางแจ้ง เปิดประตูทิ้งไว้เพื่อให้เกิดการระบายอากาศและทำให้พรมแห้ง
2. พรมเปื้อนโคลน
ให้เริ่มต้นจากการเช็ดทำความสะอาดโคลนก่อน ตามด้วยผ้าสะอาดชุบน้ำเพื่อเช็ดรอยเปื้อนออกอีกครั้ง หากยังไม่ออก สามารถชุบน้ำสบู่เพื่อเช็ดทำความสะอาดซ้ำบริเวณที่มีคราบสกปรกได้
3. พรมเปื้อนสารเคมีหรือน้ำมัน
ควรทำความสะอาดทันทีด้วยน้ำสบู่อ่อน หรือแชมพู เพื่อเป็นการรีบกำจัดคราบสกปรกที่เกิดชึ้นไม่ให้ฝังแน่นไปมากกว่าเดิม
จะเห็นได้ว่า วิธีที่แนะนำไปข้างต้น เป็นวิธีซักพรมสำหรับคราบสกปรกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากการซักพรมนั้น จะมีความซับซ้อนมากกว่าการซักเบาะรถยนต์ เนื่องจากต้องมีการถอดเบาะรถยนต์ และถอดพรมรถยนต์ออกมาซักด้านนอกตัวรถเพื่อทำความสะอาด จนกระทั่งตากให้แห้งเพื่อไม่ทิ้งกลิ่นอับชื้น
ดังนั้นในกรณีที่พรมรถยนต์มีความสกปรกมาก เช่น กรณีนำรถไปลุยน้ำท่วมจนน้ำเข้าห้องโดยสาร ในกรณีนี้ ควรเลือกใช้บริการซักพรมจากร้านรับซักพรมรถยนต์จะทำให้ทำความสะอาดได้ดีกว่า โดยขั้นตอนการซักพรมรถยนต์จากร้านที่ให้บริการ จะมีขั้นตอนดังนี้
- ถอดพรมรถยนต์ออก และทำความสะอาดพื้นรถยนต์ ระหว่างนั้น สามารถนำรถกลับไปใช้งานได้
- ส่วนพรมรถยนต์ จะมีการซั้กทำความสะอาดกลางแจ้ง แช่น้ำยาฆ่าเชื้อโรค และตากจนแห้งก่อนใส่กลับเข้าไปในตัวรถ
วิธีการดูแลรักษาเบาะรถยนต์และพรมรถยนต์ให้สะอาดอยู่เสมอ
1. หมั่นทำความสะอาดด้วยการดูดฝุ่น
ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดที่จะป้องกันให้ห้องโดยสารปราศจากฝุ่น โดยสามารถเลือกใช้เครื่องดูดฝุ่นสำหรับรถยนต์ขนาดเล็กได้ เพื่อช่วยให้การทำความสะอาดเข้าถึงซอกซอยขนาดเล็กได้ดี
2. หลีกเลี่ยงการนำอาหารและเครื่องดื่มขึ้นมารับประทานบนรถ
เพราะอาหารและเครื่องดื่มเป็นสาเหตุสำคัญที่จะก่อให้เกิดคราบสกปรกได้ หรือหากมีความจำเป็นจริงๆ ที่ต้องนำขึ้นมาทาน ก็ควรหากระดาษหรือผ้ารอง รวมถึงนำขยะไปทิ้งทันทีหลังรับประทานเสร็จ
3. เมื่อเกิดคราบสกปรกควรทำความสะอาดทันที
เพื่อลดการสะสมของคราบฝังแน่น สามารถทำได้โดยใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำสะอาด หรือน้ำสบู่อ่อนทำความสะอาดทันที
ข้อดีของการซักเบาะรถยนต์และพรมรถยนต์
หลักๆ จะเป็นข้อดีในแง่ของสุขอนามัยที่ดีของผู้ใช้รถ เนื่องจากห้องโดยสารที่สกปรก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับฝุ่น และคราบฝังแน่น อาจจะก่อให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ รวมไปถึงส่งผลกระทบต่อระบบแอร์ของรถยนต์ได้อีกด้วย
เพราะแอร์รถยนต์ก็เป็นการหมุนเวียนอากาศในห้องโดยสารเช่นเดียวกัน หากห้องโดยสารสกปรก ก็จะทำให้แอร์ทำงานหนักตามไปด้วย การซักเบาะรถยนต์และพรมรถยนต์จึงเป็นข้อดีต่อทั้งผู้ขับขี่ และระบบแอร์ของรถยนต์อีกด้วย
สรุป
ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปสำหรับคราบสกปรกเพียงเล็กน้อยที่สามารถทำความสะอาดได้ทันทีด้วยวิธีการซักเบาะรถยนต์และซักพรมรถยนต์ตามที่ได้แนะนำไป
แต่อย่างไรก็ถาม หากความสกปรกมีมากเกินกว่าจะทำความสะอาดด้วยตัวเอง ก็สามารถเลือกใช้บริการของร้านในการซักเบาะรถยนต์หรือซักพรมรถยนต์ได้ เนื่องจากอุปกรณ์ที่ครบครันและประสบการณ์ที่มี จะช่วยทำให้มั่นใจได้ว่าทั้งเบาะและพรมของคุณจะสะอาดเอี่ยมอ่องแน่นอน
ทำความสะอาดเบาะแล้วสนใจติดฟิล์มกรองแสงลดความร้อน โทรหาเราสิครับ
หลายคนยังสนใจ บทความน่ารู้เพิ่มเติม